messager
 
องค์การบริหารส่วนตำบลพระเสาร์ info_outline ข้อมูลการติดต่อ

อบต.พระเสาร์
 อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร

Phrasao (SAO) 

 

 

 

ยินดีต้อนรับ เข้าสู่เว็บไซต์ องค์การบริหารส่วนตำบลพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
place สถานที่ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
ประวัติความเป็นมาโดยย่อของบ้านพระเสาร์ บ้านพระเสาร์ เดิมเป็นบ้านเก่าแก่ของขอม (เขมร) มาตั้งภูลำเนาอยู่เป็นระยะเวลาหลายร้อยปี ขอมก็ได้อพยพหนีไปอยู่แห่งใหม่ มีภาชนะต่างๆ เช่นกระปุกปั้น หม้อ ไห ขุดบึง คูณดินเป็นโนน ขุดครองสิม หนองปู่ตา เป็นหลักฐาน ต่อมามีชนอยู่ 2กลุ่ม คือ 1. อพยพมาจากศรีภูมิ (สุวรรณภูมิ) 2. พวกยือ (ส่วย) อพยพมาจากศรีษะเกษ บ้านโพนข่า โพนวัว ชน 2 กลุ่มได้รวมตัวกันจัดตั้งวัดขึ้นที่โนนหนองสิม เป็นระยะเวลามานาน 1,000 กว่าปี ต่อมามีเจ้าวัดชื่อ หลวงพ่อมุม มีชื่อเล่นว่าหลวงพ่อขี้เถ้าได้พาพระสงมาถางไร่ เพื่อปลูกมันเทศ มันแกวหลวงพ่อก็เลยขุดบ่อน้ำ พระสงฆ์ก็พากันอพยพมาสร้างกุฏิพออยู่ได้ ชาวบ้านเมื่อเห็นพระสงฆ์อพยพมาต่างก็พากันอพยพมาอยู่ด้วย ในสมัยนั้นได้ข่าวว่า จังหวัดพนมไพรได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้น พระสงฆ์และประชาชนจำนวนมากได้เดินทางผ่านสถานที่หมู่บ้านต่างๆ จุดประสงค์ก็เพื่อนำปัจจัยสิ่งของอันมีค่าดังกล่าวไปสักการบูชาและบรรจุไว้กับองค์พระธาตุ ขณะนั้น บ้านพระเสาร์ยังไม่มีชื่อบ้านเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ชาวบ้านจำนวน 2 กลุ่ม จึงได้มาประชุมกันว่าจะตั้งชื่อหมู่บ้านว่าอย่างไรดี เลยมีความคิดขึ้นว่า พระสงฆ์ได้ธุดงค์มา “เซา” คำว่า “เซา” เป็นภาษาอิสานแปลว่า “พักผ่อน” จึงได้ตกลงกันให้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า ”บ้านพระเซา” ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบ้านพระเสาร์ นานมาแล้วมีคณะสงฆ์จำนวน 500 รูป พร้อมญาติโยมจำนวนมากที่อพยพมาจากบ้านโพนข่า โพนงัว จังหวัดศรีสะเกษ และอพยพมาจากสุวรรณภูมิ มารวมกันเพื่อที่จะเดินทาง โดยได้นำก้อนหินศิลาทรายพร้อมด้วยเงินทองโดยการนำของหลวงปู่ท้าวไปร่วมก่อสร้างพระธาตุพนม (จังหวัดนครพนม ปัจจุบัน) แต่การเดินทางในครั้งนั้นไม่มีรถยนต์ ใช้วัวเทียมเกวียนและใช้คนหาบหามช่วยเหลือกัน ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น ตื่นเช้าก็ออกเดินทางต่อไป ซึ่งในขณะนั้นได้ออกเดินทางจากบ้านประสิว (บ้านคูเมือง ตำบลคูเมืองในปัจจุบัน) ตอนเช้า หลวงปู่ท้าวได้พาคณะสงฆ์ตลอดญาติโยมออกจากที่พักและเดินทางมาพักที่โนนหนองน้ำ เพราะเป็นเวลาพลบค่ำพอดี ตลอดที่พักแห่งนี้ หลวงปู่ท้าวได้ดูสภาพรอบๆ หนองน้ำแล้วเป็นที่เหมาะแก่การตั้งวัดและหมู่บ้าน จึงได้ร่วมปรึกษาหารือกันว่า เมื่อเรามาพบสถานที่อุดมสมบูรณ์แล้วเราควรจะสร้างวัดและตั้งบ้านเรือนให้ญาติโยมได้อาศัย พร้อมสถานที่แห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทำไปจนถึงลูกหลานก็ใช้ไม่หมด จึงได้พร้อมกันดำเนินการก่อสร้างวัดและสร้างหมู่บ้าน ซึ่งสาเหตุมาจากในขณะที่ปรึกษาหารืออยู่นั้นได้ข่าวจากคณะที่เดินทางไปก่อนหน้านี้ว่า การก่อสร้างพระธาตุพนมได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้นำหินศิลาทรายและวัตถุที่นำมานั้น นำมารวมกันแล้วสร้างเป็นวัดขึ้นที่โนนน้ำแห่งนั้น (ปัจจุบันคือที่ก่อตั้งวัดพระธาตุบุญตา) ส่วนญาติโยมที่ตามมาก็ขอให้เอาไม้บริเวณนั้น ไปสร้างที่อยู่อาศัย โดยมีการแบ่งกันเป็นคุ้มๆ จำนวน 7 คุ้ม เพื่อที่จะดูแลรักษาร่วมกัน เพราะช่วงที่อพยพมาบางแห่งก็ถูกโจรขโมยสิ่งของที่นำมา หลวงปู่ท้าวจึงให้อยู่รวมกันเป็นคุ้มๆ ดังนี้ 1. คุ้มหวงแหน 2. คุ้มโนนขวา 3. คุ้มโนนตาล 4. คุ้มขี้หมา 5. คุ้มโนนทัน 6. คุ้มโนนโพธิ์ 7. คุ้มโนนขี้เหล็ก และตั้งชื่อบ้านขึ้นว่า บ้านพระเซา ในขณะนั้นยังไม่มีการเลือกผู้ใหญ่บ้านและต่อมาได้ขอตั้งหมู่บ้าน ชื่อว่าบ้านพระเซา ทางอำเภอจึงได้แต่งตั้งตามที่ขอไป เป็นบ้านพระเซา หมู่ที่ 1 และโนนรอบๆบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านพระเซา ได้มีกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ที่ตามมาทีหลัง ก็ได้หยุดตั้งบ้านเรือน และได้ขอตั้งเป็นหมู่บ้านเพิ่มอีก จำนวน 6 หมู่บ้าน ดังนี้1. บ้านพระเซา 2. บ้านปลาปึ่ง 3. บ้านโนนยาง 4. บ้านขาทราย 5. บ้านโนนงิ้ว 6. บ้านหัวดง 7. บ้านแดง บ้านพระเซาหลังจากที่ได้ขอตั้งหมู่บ้านแล้ว ทางราชการได้แต่งตั้งผู้ใหญ่บ้าน โดยมีนายเบ้า เวชจำปา เป็นผู้ใหญ่บ้าน และต่อมาได้มีการเลือกบ้านพระเซา เป็นตำบลพระเซา โดยนายเบ้า เวชจำปา เป็นกำนันตำบลพระเซา โดยเป็นคนแรกของตำบล เมื่อปี พ.ศ. ........... และต่อมาได้มีการเลือกกำนันตำบลพระเซา โดยมีนายสังข์ พวงพันธ์ เป็นกำนันคนที่สอง นายพรหม โสระมรรค เป็นกำนันคนที่สาม ในช่วงที่นายพรหม โสระมรรค ทำหน้าที่เป็นกำนั้น นั้น การเรียกชื่อตำบลพระเซา ก็ได้เปลี่ยนเป็นตำบลพระเสาร์ ตามที่ชาวบ้านเรียกชื่อมาตามลำดับ นายมนู ก้อนคำ เป็นกำนันคนที่สี่ นายผ่าน วิชาพูล เป็นกำนันคนที่ห้า นายออน ธรรมรักษ์ เป็นกำนันคนที่หก นายสมปอง ผันผาย เป็นกำนันคนที่เจ็ด และนายชัยวัฒน์ ตะเคียน เป็นกำนันตำบลพระเสาร์ จนถึงปัจจุบัน บ้านพระเสาร์ ในช่วงที่กำนันผ่าน วิชาพูล ดำรงตำแหน่งนั้น ได้ขอแยกหมู่บ้านพระเสาร์ ออกเป็นหมู่ที่ 8 ทางราชการจึงอนุมัติให้แยกได้ โดยนายหาญ สิงห์คำ ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 และมีนายประดิษฐ์ โสสะ เป็นผู้ใหญ่บ้านพระเสาร์ หมู่ที่ 8 (คนปัจจุบัน) ด้านการปกครอง ตำบลพระเสาร์ เป็นตำบลติดเขตของจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดศรีสะเกษ มีเส้นทางการคมนาคมเชื่อมกันตลอดและการสัญจรไปมาสะดวก ถึงจะเป็นตำบลที่อยู่แนวเขตการติดต่อของสองจังหวัด ทำให้ประชาชนของตำบลพระเสาร์ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เนื่องจากมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การค้าขาย ความสัมพันธ์ด้านการศึกษา การพัฒนา การประกอบอาชีพ ถือได้ว่าตำบลพระเสาร์ ได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆ ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งอุปนิสัยของประชาชน มีการเสียสละ อ่อนน้อมถ่อมตน คบง่าย ไม่ถือตัว และพร้อมเป็นมิตรกับทุกชุมชน ในช่วงปี 2535 ทางราชการได้ให้อำนาจของตำบลพระเสาร์ ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาตนเอง โดยที่กำนันตำบลพระเสาร์ และผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยผู้แทนของชาวบ้านที่เลือกเข้ามาเป็นคณะกรรมการสภาตำบล หมู่บ้านละ 1 คน เข้ามาทำหน้าที่แทนชุมชน เพื่อวางแผนการพัฒนาตำบลของตัวเองให้ได้รับความเจริญ ทัดเทียมตำบลข้างเคียง โดยท่านนายอำเภอนั้น คอยกำกับดูแลร่วมกับพัฒนาการอำเภอ เป็น พี่เลี้ยงให้ ช่วงนายออน ธรรมรักษ์ เป็นกำนัน และทำหน้าที่เป็นประธานคณะสภาตำบล โดยทำหน้าที่คราวละ 4 ปี ก็ให้มีการเลือกผู้แทนหรือผู้ทรงคุณวุฒิ เข้ามาหมู่บ้านละ 1 คน ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน แพทย์ประจำตำบล 1 คน ร่วมเป็นคณะสภาตำบล มีนายพยงค์ โสภา ตำแหน่งครูใหญ่ โรงเรียนบ้านพระเสาร์ ทำหน้าที่เลขานุการ และต่อมานายออน ธรรมรักษ์ ได้ครบวาระการเป็นกำนัน ชาวบ้านได้เลือกนายสมปอง ผันผาย เป็นกำนันตำบลพระเสาร์ต่อ และได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการบริหาร ในปี พ.ศ. 2540 - 11 พ.ค. 2544 โดยมีนายธำรง เติมทรัพย์ ครูใหญ่โรงเรียนบ้านพระเสาร์ทำหน้าที่เป็นเลขาฯ และต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงจากสภาตำบล เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลพระเสาร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 – 2552 และได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาตำบลพระเสาร์ เข้ามาเป็นตัวแทนชาวบ้านมาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ พร้อมได้ดำเนินการเลือก นายแพงศรี แสนโคตร เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระเสาร์ เป็นผู้บริหาร พร้อมมีปลัดอรุณรัชช์ พรมนอก เป็นเลขานุการ ทำให้ตำบลพระเสาร์ได้รับความเจริญในทุกๆด้าน ประชาชนอยู่ดี เป็นสุข การศึกษาก้าวหน้า ประชาชนมีอาชีพ สร้างรายได้สู่ครอบครัว ดังคำขวัญตำบลพระเสาร์ ที่ว่า พระธาตุบุญตางามเด่น สงบเย็นหนองบัวแดง ธรรมชาติแหล่งฝูงลิง งามยิ่งผ้าไหมไทย ฝักใฝ่สัจจะธรรม ก้าวล้ำเศรษฐกิจ ข้าวขาวหอมมะลิ ประเพณีแห่บั้งไฟ ตำบลพระเสาร์ มีสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สักการะของชุมชนและผู้พบเห็น คือพระธาตุบุญตาที่วัดพระธาตุบุญตา และทุกปีชาวบ้านพระเสาร์ทั้ง 2 หมู่บ้าน ร่วมกับชุมชนต่างๆ จัดงานนมัสการ พระธาตุบุญตาทุกปี และสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่บ้านปลาปึ่ง ก่อนจะถึงบ้านพระเสาร์ยังมีฝูงลิงซึ่งถือได้ว่าตำบลพระเสาร์มีตำบลในเขตอำเภอมหาชนะชัย ที่มีฝูงลิงอยู่เป็นจำนวนมาก และองค์การบริหารส่วนตำบลพระเสาร์ ได้จัดงานประเพณีเลี้ยงโต๊ะจีนลิง ซึ่งถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการอนุรักษ์เชิงท่องเที่ยวของตำบลพระเสาร์ ส่วนอีกสถานที่แห่งหนึ่ง คือ วัดป่าหนองบัวแดง ซึ่งตั้งอยู่ หมู่ที่ 8 บ้าน พระเสาร์ ซึ่งเป็นวัดสายวัดหนองป่าพง สาขาที่ 140 เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลได้จัดงานปฏิบัติธรรมในทุกๆ ปี อีกทั้งปัจจุบัน ทางวัดได้ก่อสร้างอุโบสถสองชั้น ซึ่งถือได้ว่า เป็นอุโบสถที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ในด้านทรัพยากรธรรมชาติ ในเขตตำบลพระเสาร์มีป่าสงวนอยู่ในพื้นที่ มีเนื้อที่พันกว่าไร่ ซึ่งภายในป่าสงวนถือเป็นป่าเศรษฐกิจของชุมชน โดยในหน้าแล้งชาวบ้านก็ออกหาแมลงขาย หน้าฝนก็พากันเก็บเห็ดมาขายซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี และชาวบ้านในเขตตำบลพระเสาร์ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล จัดกิจกรรมปลูกป่าเพื่อทดแทนป่าที่ตาย เป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและช่วยกันดูแลผืนป่าแห่งนี้ เป็นอย่างดี ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ได้สนับสนุนงบประมาณในการดูแล บำรุงรักษาทุกปี ตลอดจนการประสานงานฝ่ายปกครองตำบลพระเสาร์ทุกหมู่บ้านและส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสนับสนุน ดูแลรักษาป่า ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด และระดับกรม ตามลำดับ
ฐานข้อมูลการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว ตำบลพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร

วัดพระธาตุบุญตา
วัดพระธาตุบุญตา ที่อยู่ หมู่ที่ 1 บ้านพระเสาร์ ต.พระเสาร์ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร วัดพระธาตุบุญตาตั้งอยู่ที่บ้านพระเสาร์หมู่ที่ 1 ตำบลพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชัย มีเนื้อที่ 4 ไร่เดิมเป็นวัดร้าง อายุประมาณ 1,000 ปี มีอิฐิและศิลาแรงเก่า มีสิมกลางหนองน้ำ ซึ่งเป็นเสาร์ไม้ตะเคียนฝังอยู่ในใต้หนองน้ำ ไม่มีการบูระณะปฏิสังขรณ์ขึ้นก่อตั้งเป็นองค์พระธาตุเจดีย์มาตุภูมิ เพื่อลำลึกถึงพระคุณมารดาบ้านเกิดของหลวงปู่เอง วัดพระธาตุบุญตาก่อสร้างเมื่อวันที่ 17 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2538 - สร้างเสร็จ พ.ศ. 2540 ฐานล่าง กว้าง 8 เมตร ยาว 8 เมตร ส่วนกลาง กว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร สูง 33 เมตร พร้อมฉัตรทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ในพระธาตุบรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ทั่วสารทิศ สมัยที่หลวงปู่ธุดงค์ต่างเสด็จมาเอาทองคำหนักประมาณ 30 บาท รวมบรรจุไว้บนยอดพระธาตุเจดีย์ งบประมาณก่อสร้าง 14 ล้านบาท ปัจจุบัน พระครูบุญเจติยาทร เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุบุญตา
วัดพระธาตุบุญตา



ประวัติของหมู่บ้านปลาปึ่ง และศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าบ้านปลาปึ่ง
มีผู้มาจาก จังหวัดอุบลราชธานี และศรีษะเกษ ได้มาร่วมกันจัดตั้งหมู่บ้านนี้ขึ้นมา ชื่อหมู่บ้านจานเจี้ยว เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก ทางการจึงมีการประกาศคัดเลือกผู้ใหญ่บ้านขึ้น ชาวบ้านจึงเลือกให้ท้าวหลวงสี เป็นผู้นำหมู่บ้านในปี พ.ศ. 2379 ต่อมาได้ครบวาระจึงเลือกให้เท้าหลวงชัย เป็นผู้ใหญ่บ้านแทนตำแหน่งที่ว่าง หลังจากครบรอบวาระ 5 ปี ชาวบ้านก็ได้คัดเลือกเอา นายสงค์ พวงสวัด ต่อมาครบ 5 ปี ชาวบ้านได้เลือก นายคูณ วงษ์กันยา เป็นตำแหน่งที่ว่างลง และปัจจุบันได้เลือก นายสอาด แสงสุด เป็นผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันและ เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็นบ้านปลาปึ่ง หมู่ที่ 2 ตำบลพระเสาร์ หมู่บ้านปลาปึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กและเป็นหมู่บ้านที่มีพื้นป่าสงวนแห่งชาติมากที่สุดในตำบลพระเสาร์และมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากที่มากที่สุดคือ“ลิง”และเป็นสัตว์ที่หาดูได้อยากปัจจุบัน ชาวบ้านจึงได้ตั้งศาลเจ้าปู่ลิงขึ้นมา มีการสักการบูชาแก่บุคคลที่ผ่านไปมา ชม “ลิง” ซื้อผลไม้มาเลี้ยงลิง ต่อมาทางองค์การบริหารส่วนตำบลพระเสาร์ได้ว่า สัตว์(ลิง) เป็นสัตว์ที่หาดูได้อยาก ในจังหวัดยโสธร จึงได้ตั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าขึ้น และจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในตำบลพระเสาร์ มีการจัดสรรงบประมาณเลี้ยงอาหารลิง ในช่วงเดือน มีนาคม - เมษายน ของทุกปีเพราะเป็นช่วงฤดูที่สัตว์ป่าหารอาหารได้อยาก
ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าบ้านปลาปึ่ง




วัดป่าหนองบัวแดง (สาขาที่ 140 ของวัดหนองป่าพง)
วัดป่าหนองบัวแดง ตั้งอยู่เลขที่ 125 หมู่ 8 บ้านพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร 35130 เป็นวัดสาขา วัดหนองป่าพง ซึ่งมีศาลาโบสถ์สองชั้น เป็นวัดที่ใช้จัดฝึกอบรรมปฏิบัตธรรม และจัดกิจกรรมต่างๆในเขตตำบลพระเสาร์ เพราะมีสถานที่กว้างขวาง ร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศน่าปฏิบัติและฝึกสมาธิเป็นอย่างยิ่ง
วัดป่าหนองบัวแดง



วัดบ้านพระเสาร์